ยิ่งล้าง ยิ่งพัง 6 พฤติกรรมไม่หยุดทำ หน้าก็ไม่มีวันดี
เพื่อนๆ แน่ใจหรอคะ ว่าการล้างหน้าที่ทำอยู่ทุกวัน นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง แล้วถ้าคิดว่าล้างถูกวิธีจริงๆ ทำไมหน้ายังไม่ใส ทั้งสิว ทั้งรอยดำยังไม่จางหายไปสักทีล่ะ เพราะแบบนี้ไง ธัญวรรณก็เลยมี 6 ข้อนี้ มาให้สาวๆ เช็คกัน ว่าพฤติกรรมที่เป็นอยู่ คือต้นเหตุที่ทำให้หน้าพังหรือเปล่า
#ล้างมากเกินไป จนทำให้ผิวแห้ง ดูหมองคล้ำ ที่สำคัญยังทำให้ผิวหน้า เกิดริ้วรอยได้ง่ายๆ อีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นควรล้างแบบพอดี ล้างวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็นก็เพียงพอแล้วค่ะ
#ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าผิดประเภท ทำให้ผิวหน้าเกิดสิว และยังทำให้จากผิวหน้าที่เคยแข็งแรง เกิดอาการแพ้ง่ายอีกด้วย เพราะฉะนั้นสาวๆ ต้องดูก่อน ว่าตัวเองมีผิวหน้าแบบไหน แล้วค่อยเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าให้ถูกค่ะ
#ถูหน้าแรงมาก เข้าใจค่ะ ว่าเพื่อนๆ ก็อยากจะให้ผิวหน้าสะอาด แต่รู้มั้ยคะว่ายิ่งถูแรง ก็ยิ่งทำให้ผิวหน้าเกิดอาการแพ้ จนผื่นแดงขึ้นเต็มหน้าได้ ทางที่ดีควรจะถูหน้าอย่างเบามือ แล้วขัดผิวหรือสครับอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอที่จะช่วยให้ผิวหน้า ที่เจอทั้งมลพิษ ฝุ่นควันมาสะอาดหมดจด และยังคงความชุ่มชื้นได้แล้วค่ะ
#ล้างหน้าด้วยน้ำร้อน ยิ่งช่วงหน้าหนาว สาวๆ ก็คงจะคิดว่าผิวหน้าจะอบอุ่นใช่มั้ยคะ แต่ความจริงแล้วมันจะทำให้ผิวหน้าของสาวๆ เกิดอาการช็อคจนทำให้หน้าแห้ง ผิวแตกและลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ได้ ทางที่ดีก็คือต้องเช็คอุณหภูมิน้ำก่อนล้าง ว่ามันอยู่ในเกณฑ์ที่ สามารถสัมผัสหน้าได้หรือไม่ ถ้าแค่เอามือสัมผัสแล้วยังรู้สึกว่าร้อน ก็อย่าเด็ดขาดค่ะ หรือจะล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ จะดีที่สุดค่ะ
#ขัดหน้านาน กว่า 2 นาที อาจจะทำให้รู้สึกว่าหน้าสะอาดได้จริงๆ แต่ก็ต้องแลกมากับใบหน้า ที่ต้องโดนเสียดสีซ้ำๆ จนบอบบาง และเกิดอาการแพ้ง่ายค่ะ แนะนำว่าให้ขัดเบาๆ ตามแนวรูขุมขน และไม่ต้องนานเกินไปดีกว่าค่ะ
#ใช้แผ่นเช็ดเครื่องสำอางแบบผิดวิธี ถึงจะช่วยลดระยะเวลาในการล้างหน้า แต่อย่าลืมนะคะว่าการเช็ดแบบช้อนขึ้นบน ก็ทำให้หน้าเยินได้ เพราะจะยิ่งไปเปิดรูขุมขนให้กว้างค่ะ เพราะฉะนั้นค่อยๆ เช็ด ค่อยๆ ซับ แล้วให้เช็ดลงอย่างเบามือที่สุดจะดีกว่าค่ะ
และเพื่อให้การล้างหน้านั้นสะอาด ไม่ต้องถูหน้าแรง ไม่ต้องขัดหน้านาน ล้างเครื่องสำอางที่ติดบนหน้าได้หมดจด ใช้สบู่โสมทองเลยค่ะ นอกจากจะช่วยเคลียร์ปัญหาผิวหน้า ยังทำให้ผิวเนียน กระจ่างใส แลดูชุ่มชื้นอีกด้วยนะ
ความเห็นล่าสุด